การเกิดสี และภาพบนจอคอมพิวเตอร์ มีเนื้อหาดังนี้ :
                 2.1. การเกิดสี และภาพ       :       2.2. การเรียงตัวของจุดสี่เหลียมสี

2.2. การเรียงตัวของจุดสี่เหลี่ยมสี จนเกิดเป็นภาพ

      จุดที่กล่าวถึงในข้างต้นนั้น จะเกิดจากการเรียงตัวกันของจุดสี่เหลี่ยมสีต่างๆ เรียกว่า พิกเซล (Pixel) ซึ่งย่อมาจาคำว่า picture element และตัวพิกเซลนี้ยังเป็นตัวกำหนดความคมชัดของภาพในจอมอนิเตอร์อีกด้วย

แสดงการเรียงตัวกันของจุดสี่เหลี่ยมสีต่าง ๆ จนเกิดเป็นรูปภาพบนจอมอนิเตอร์

    จากภาพตัวอย่างเมื่อขยายรูปขึ้นมาดู จะเห็นสีเหลี่ยมต่างๆมาเรียงกันจนเกิดเป็นรูปภาพที่เรียกว่า พิกเซล และถ้าเรากำหนดให้ภาพนั้นๆมีจำนวนพิกเซลมากเท่าไร ภาพที่ได้ก็จะมีความละเอียดเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ ขนาดของไฟล์ภาพนั้นๆ จะมีขนาดใหญ่ตามความละเอียดของภาพที่เพิ่มขึ้นด้วย ถ้าเป็นภาพทางด้านสิ่งพิมพ์จะมีลักษณะเป็นจุดกลมๆ แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือ พิกเซล ไม่ใช่จุดจริงๆ บนคอมพิวเตอร์ เพราะคอมพิวเตอร์สมัยใหม่สามารถแสดงได้ถึง 1280 จุดx 1024 จุด หรือมากกว่านั้น ซึ่งในการทำงานจริงๆอาจใช้เพียง 640 พิกเซล x 480 พิกเซล หรือ 800 พิกเซล x 600 พิกเซลเท่านั้น ดังนั้นพิกเซลหนึ่งอาจประกอบด้วยจุด บนจอหลายๆจุดก็ได้ จุดแต่ละจุดบนภาพนั้นๆก็คือ ความละเอียดของภาพ ซึ่งเรียกว่า Resolution มีหน่วยเป็นจุดต่อตารางนิ้ว (Dot per inch : dpi) เช่น 75 dpi สำหรับงานพิมพ์สีดำ หรือสีเดียว, 150 dpi สำหรับงานพิมพ์ 4 สี คือ สีดำ เหลือง ม่วง ฟ้า ในส่วนของหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นจะไม่เป็นจุดกลมเหมือนงานพิมพ์ แต่เป็นสี่เหลี่ยมต่อๆ กัน ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
    ตามนัยของกราฟิก คือภาพเกิดจากจุดที่เรียงชิดติดกันเกิดเป็นเส้น จากเส้นหลายๆเส้นติดกัน เกิดเป็นภาพ เป็นตัวอักษร ถ้าการเอาภาพถ่ายมาสแกน ภาพที่ได้จะเป็นภาพกราฟิก ภาพที่ได้จากกล้องดิจิตอลก็เป็นกราฟิก ส่วนภาพถ่ายที่เกิดจากกระบวนการล้างอัดภาพด้วยสารเคมีไม่ใช่ภาพกราฟิก