|
|
|
คอมพิวเตอร์กราฟิกถูกนำมาใช้เพื่อการผลิตวัสดุกราฟิกชนิดต่างๆ มากมาย เช่น กราฟแท่ง กราฟเส้น กราฟวงกลม ซึ่งสามารถทำได้ทั้งในรูปแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ ทำให้ภาพที่ได้ออกมานั้นดูดี น่าสนใจ สื่อความหมายได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และโปรแกรมที่ใช้ในการสร้างภาพต่างๆเหล่านี้ก็มีหลากหลายโปรแกรม เช่น Photoshop, Image Ready, Ulead Cool 3D, PowerPoint, Dreamweaverฯลฯ ซึ่งเราสามารถที่จะนำโปรแกรมเหล่านี้มาประยุกต์ใช้เพื่อการผลิตวัสดุกราฟิกชนิดต่างๆได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานนำเสนอ (Presentation), ภาพ 2 มิติ, ภาพ 3 มิติ และภาพเคลื่อนไหว โดยจะแนะนำตัวอย่างชิ้นงานต่าง ๆ ดังนี้
|
ในปัจจุบันเราสามารถทำการสืบค้นข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย และเมื่อเราต้องการใช้มันก็จะมีซอฟต์แวร์ตัวหนึ่งที่เรียกว่า เว็บเบราเซอร์ (Web Browser) ซึ่งโปรแกรมที่ใช้ในการเลือกดูและค้นหาเอกสารในระบบอินเทอร์เน็ตที่เป็นเวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web)
ในการสร้างเว็บเพจต่าง ๆ มีโปรแกรมที่นิยมใช้ในการสร้างเว็บ ได้แก่ Macromedia Dreamweaver, Microsoft FrontPage, Allaire HomeSite เป็นต้น ซึ่งในการออกแบบเว็บที่ดี จะช่วยให้การสืบค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมีความสะดวก ง่ายต่อการใช้งาน และทำให้ผู้เข้ามาชมกลับมาดูทุกครั้งเมื่อต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ข้อแนะนำในการทำเว็บไซต์
1. เลือกเนื้อหา
ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเริ่มทำเว็บไซต์ เนื้อหาต้องน่าสนใจ และต้องมีผู้เข้าชมอยู่แล้ว เช่น เว็บไซต์ขององค์กร เกม ดารา แต่ถ้าสำหรับบุคคลที่เริ่มต้นทำควรเลือกเนื้อหาที่ตนสนใจ จะทำให้การทำงานเกิดความสนุกในการทำ และได้ความรู้ไปในตัว
2.
โครงสร้างของเว็บไซต์
การจัดโครงสร้างของเว็บไซต์นี้จะช่วยให้ผู้ชมสามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ โดยจะต้องพิจารณาถึง
กลุ่มผู้ชม ซึ่งมีอยู่หลากหลายกลุ่ม และแต่ละกลุ่มก็มีพฤติกรรมการค้นหาข้อมูลที่แตกต่างกันด้วย
การจัดกลุ่มของข้อมูลที่กระจัดกระจาย ให้รวมหัวข้อย่อยต่างๆให้อยู่ในหัวข้อหลัก โดยมีจุดมุ่งหมายให้จำนวนข้อหลักน้อยที่สุด เพราะฉะนั้นอาจตัดหัวข้อย่อยออกบางข้อเพื่อความเหมาะสม
การจัดไฟล์ และไดเรกทอรี ก็จะช่วยให้การดูแลรักษา และการตรวจสอบความผิดพลาดของเว็บเพจง่ายขึ้น
ขั้นตอนในการออกแบบโครงสร้าง
จัดกลุ่มของข้อมูล ควรจำแนกข้อมูลต่างๆออกเป็นกลุ่มๆอย่างชัดเจน และนำหัวข้อต่างๆเหล่านั้นมาจัดเป็นกลุ่มอีกครั้งเพื่อให้เลือกกลุ่มหลักที่แท้จริงออกมา 4-7 กลุ่ม และควรใช้ข้อความที่เป็นมาตรฐาน ซึ่งทำให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าใจหัวข้อของกลุ่มได้ทันที เช่น About Us, Products & Services, Pricing, Job Opportunities, Contact Us เป็นต้น
ลำดับความสำคัญของเนื้อหาโดยเรียงเนื้อหาตามลำดับความสำคัญของเนื้อหาว่ากลุ่มใดเป็นกลุ่มหลัก กลุ่มใดเป็นกลุ่มรอง และส่วนใดบ้างจะป็นเนื้อหาเพื่อสะดวกในการออกแบบ จัดความสัมพันธ์ของแต่ละหน้าเว็บเพจ ข้อมูลต่าง ๆ
จัดความสัมพันธ์ของแต่ละเว็บเพจ ถ้าเว็บไซต์มีขนาดไม่ใหญ่ก็สามารถจัดกลุ่มข้อมูลเป็นแบบรากต้นไม้ได้ แต่ถ้าข้อมูลมีจำนวนมากเราอาจใช้ ไฮเปอร์ลิงก์ (Hyperlink) เข้ามาช่วยในการเชื่อมโยงจากเว็บเพจหนึ่งไปยังอีกเว็บเพจหนึ่งซึ่งไฮเปอร์ลิงก์ มีการเชื่อมโยงทั้งแบบ รูปภาพ และตัวอักษรหรือเรียกว่า (Hypertext) ซึ่งจะมีลักษณะของคำเป็นขีดเส้นใต้ หรือตัวหนา และสามารถเชื่อมโยงไปยังส่วนต่างๆของเว็บไซต์ได้ หรือจะเป็นเว็บไซต์อื่นก็ย่อมได้
ปรับความสมดุลของไซต์ คือ การจัดกลุ่มข้อมูลต่างๆให้มีความเหมาะสมกับการเข้าถึงข้อมูลของผู้ชมที่ต้องอยู่บนรากฐานของความสะดวก และมีประสิทธิภาพ
3. ทุกคนดูได้ และดูดี
ในการจัดทำเว็บไซต์ควรที่จะจัดทำให้สามารถดูได้ทุกๆ เวอร์ชั่นของซอฟแวร์ต่างๆ เช่น Netscape Communicator, Internet Explorer ฯลฯ แต่ส่วนใหญ่เบราเซอร์ที่ใช้เป็นจำนวนมากจะเป็น Netscape Communicator และ Internet Explorer ในการทำให้เว็บไซต์สามารถดูได้ทุกเบราเซอร์นี้จะทำให้ไม่จำกัดผู้ชมเฉพาะกลุ่ม นอกจากนี้ในเรื่องของการออกแบบ เช่น สีที่ใช้, เฟรม, Style Sheet} Cookie} Java} JavaScript และ Plug-ins ที่อาจทำให้ผู้ชมเห็นเว็บไซต์ต่างไป
4. ความเร็วในการโหลดเว็บ
ความเร็วในการโหลดเว็บก็เป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่ง ผู้เข้าชมไม่ควรใช้เวลานานเกินไปในการโหลดเว็บไซต์ ปัจจัยที่กระทบต่อความเร็วได้แก่
ขนาดของรูปภาพ
และจำนวนของรูปภาพที่ใช้ ขนาดของรูปไม่ควรเกิน 20-30 K ต่อรูป
ประเภทของรูปควรเป็น GIF
หรือ JPEG
ถ้าภาพมีขนาดใหญ่ให้ทำการตัดให้มีขนาดเล็กลง หรือใช้ตารางในการจัดภาพนั้นๆ
แต่ก็ไม่ควรมากเกินไปเพราะจะทำให้โหลดเว็บช้า
ปริมาณตัวอักษรที่อยู่บนหน้านั้นๆ ถ้ามีเนื้อหามากจะทำให้การโหลดเว็บช้า เพราะฉะนั้นควรตัดแบ่งเนื้อหาออกเป็นตอนๆ เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วในการโหลด และทำให้ผู้ชมอ่านง่ายยิ่งขึ้น
เซอร์เวอร์ที่เว็บนั้นๆอยู่ต้องดูว่ามีความสามารถสูงเพียงใดในการโหลดเว็บ
|
ภาพแสดงเว็บเพจที่ใช้ระบบแคช
(Cache) เข้ามาช่วยเพิ่มความเร็วในการโหลดภาพ media reports
: http://www.google.com/ |
5.
ง่ายในการค้นหาข้อมูล
ความง่ายในการค้นหาข้อมูลนั้นขึ้นอยู่กับโครงสร้างของเว็บไซต์ ตั้งแต่การสร้างโครงสร้าง และการจัดกลุ่มของข้อมูล นอกจากนี้การมี Navigator bar หรือแถบนำทางในทุกๆหน้าของเว็บ และสามารถให้บริการ Search หรือบริการช่วยค้นหาได้ จะเป็นสิ่งที่ช่วยในการค้นหาข้อมูลทำได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
6.
ตัวอักษร ฉากหลัง สี
ในการใช้สีบนตัวอักษร
หรือบนฉากหลัง รวมถึงการใช้รูปเป็นฉากหลัง มีส่วนสำคัญกับการมองเห็นของผู้เข้าขมเว็บไซต์นั้นๆด้วย
สีของตัวอักษร และฉากหลังควรใช้
10 คู่สีที่ใช้ในงานคอมพิวเตอร์ที่กล่าวไว้แล้วข้างต้นมาใช้
ส่วนประเภทของตัวอักษร ควรใช้เป็นสากลนิยม เช่น ถ้าเป็นภาษาอังกฤษอาจใช้ Arial หรือ Times ส่วนภาษาไทยอาจใช้ Angsana หรือ MS Sana Serif การเลือกใช้ภาษาไทยต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะถ้าในเครื่องของผู้เข้าชมไม่มีตัวอักษรนั้นก็จะไม่สามารถอ่านได้
ในการจัดวางรูปแบบข้อความควรจัดให้เหมาะสมกับปริมาณของเนื้อหา
ซึ่งรูปแบบการจัดได้กล่าวไว้แล้วในเรื่องของตัวอักษรที่ใช้ในการออกแบบ
และในกรณีที่เว็บเพจมีรายละเอียดมาก จำนวนตัวอักษรในแต่ละบรรทัดอาจช่วยให้ผู้ชม
อ่านรายละเอียดได้ง่ายขึ้น โดยใช้ตารางแบ่ง 2-3 แถว แต่ไม่ควรให้แต่ละบรรทัดสั้นเกินไป
จะทำให้อ่านแล้วไม่เข้าใจ
ฉากหลังที่ใช้ ไม่ควรใช้ฉากหลังที่เด่นเกินตัวอักษรที่อยู่บนเว็บ เพราะจะทำให้อ่านยาก และอาจทำให้อ่านยาก
ส่วนการใช้โทนสีโดยรวมนั้นขึ้นอยู่กับกลุ่มของผู้ชม และต้องคำนึงถึงการใช้โทนสีในงานต่าง ๆ อย่างเหมาะสม เช่น ถ้าต้องการพัฒนาเว็บไซต์เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์สินค้า ก็จะต้องใช้โทนสีของผลิตภัณฑ์นั้นๆเป็นสีบังคับอยู่แล้ว เช่น สีของผลิตภัณฑ์ Coca Cola เป็นสีแดง สีที่บังคับใช้ก็คือโทนสีแดง เป็นต้น
7.
รูปภาพ
รูปภาพที่นิยมใช้มีอยู่
2 ประเภท คือไฟล์ GIF
และ JPEG
ซึ่งได้กล่าวถึงแล้วในข้างต้น นอกจากนี้ในการเลือกรูปภาพมาใช้ควรคำนึงถึงความเร็วในการโหลดภาพด้วย
ในบางเว็บไซต์จะทำเป็นแกลเลอรี (Gallery) รูปภาพ ควรมีการทำภาพเล็กๆ เพื่อเชื่อมโยงไปยังภาพใหญ่ เรียกว่า Thumb การทำเช่นนี้จะช่วยให้โหลดภาพได้เร็วขึ้น และสามารถเห็นภาพคร่าวๆว่ารูปภาพเป็นอย่างไร และจะเป็นการดีถ้าให้รายละเอียดของไฟล์ และขนาดของรูปภาพนั้นๆไว้ด้วย
8.
ส่วนประกอบที่เว็บไซต์ขาดไม่ได้
ส่วนประกอบนั้น คือ หัวข้อเกี่ยวกับตัวผู้จัดทำ บริษัท อาจเป็นประวัติความเป็นมา หรือข้อมูลปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ข้อมูลในเว็บไซต์ของเราน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถทำการติดต่อกันได้ เมื่อผู้ชมมีปัญหาใดๆ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อกลับมาได้เป็นต้น
9.
ก่อนเผยแพร่เว็บไซต์
ก่อนที่จะทำการอัปโหลด (Upload) เว็บไซต์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ ควรทดสอบการใช้เว็บเบราเซอร์ทั้ง Nescape Communicator และ Internet Expolorer ว่าความเร็วในการโหลดใช้เวลาเร็ว หรือช้าเพียงใด ตรวจความถูกต้องของตัวอักษร และลิงก์ (Link) ทั้งภายในภายนอก รวมถึงตรวจ Resolution ต่างๆกันด้วย พยายามทดสอบให้มากที่สุดเพื่อป้องกันการผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น
10.
หลังจากเว็บไซต์ถูกเผยแพร่แล้ว (Publish)
สิ่งที่ควรทำหลังจากเว็บไซต์ถูกเผยแพร่แล้ว คือ
ทดสอบเหมือนกับก่อนที่จะทำการเผยแพร่อีกครั้ง
สำรวจ ปรับปรุง และดูแลเว็บไซต์
ควรมี Feedback ตอบกลับไปสำหรับผู้เข้าเยี่ยมชมที่ให้ข้อแนะนำต่าง ๆ
สรุป
จากตัวอย่างงานต่างๆที่ได้ยกตัวอย่างข้างต้น พร้อมทั้งข้อคิด ข้อสังเกตในการออกแบบชิ้นงานนั้นๆ จะใช้โปรแกรมกราฟิกต่างๆมาประยุกต์ใช้ในการทำชิ้นงานต่างๆ รวมถึงการใช้ทั้งองค์ประกอบ และหลักในการออกแบบมาใช้ในการสร้างชิ้นงานต่างๆ เพื่อการสื่อความหมายที่ถูกต้องตามจุดมุ่งหมายของผู้จัดทำ
นอกจากนี้ถ้าผู้เรียนต้องการเรียนรู้เทคนิคในการใช้โปรแกรมต่าง ๆ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในงานต่าง ๆ เพิ่มเติมสามารถคลิ้กเพื่อดู Website ที่เกี่ยวข้องได้ใน Weblink
|
|
|